top of page
ค้นหา

FIP แมว: เคล็ดลับป้องกันในบ้านที่มีหลายตัว

การเลี้ยงแมวหลายตัวในบ้านสามารถเป็นประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจได้จริง ๆ การได้เห็นพวกเขาเล่นด้วยกันและนอนกอดกันเป็นภาพที่สร้างความสุข แม้บางครั้งจะมีการทะเลาะเบา ๆ ให้เห็นก็ตาม~

ป้องกัน FIP ในบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัว

แต่คุณรู้ไหมว่า การที่แมวอยู่รวมกันหลายตัวก็เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายของ coronavirus แมว (FCoV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่อาจกลายพันธุ์จนกลายเป็นโรคร้ายแรงอย่าง FIP ได้ในที่สุด

แล้วเราจะ ป้องกัน FIP แมว ได้อย่างไรในบ้านที่มีแมวหลายตัว? มาดูคำแนะนำง่าย ๆ จาก Basmi FIP Thailand ที่เรารวบรวมมาเพื่อเจ้าของแมวโดยเฉพาะกันเลย!

ทำความเข้าใจการแพร่กระจายของ coronavirus แมว: คู่มือสำหรับบ้านที่มีแมวหลายตัว

อย่างที่เราทราบกันดีว่า FIP เป็นหนึ่งในโรคที่เจ้าของแมวกลัวมากที่สุด เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสม แมวอาจตกอยู่ในภาวะอันตรายถึงชีวิต

ก่อนที่แมวจะเป็น FIP ได้ ต้องได้รับเชื้อ coronavirus แมว (FCoV) มาก่อน โดยเชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายผ่านอุจจาระของแมวตัวอื่น

ในความเป็นจริง เชื้อไวรัสนี้พบได้ทั่วไปในแมวส่วนใหญ่ และถ้าระบบภูมิคุ้มกันของแมวแข็งแรง ก็สามารถกำจัดไวรัสนี้ได้โดยไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อไวรัสกลายพันธุ์และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว

ไวรัสที่กลายพันธุ์นี้จะเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำในช่องท้อง น้ำหนักลด สีตาเปลี่ยน หรือแม้แต่สูญเสียการควบคุมร่างกายของแมว

ด้วยเหตุนี้ แมวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นสูง หรือแมวที่อาศัยอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นในบ้านเดียวกัน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาเป็น แมวหลายตัวติด FIP

แต่หากเข้าใจวิธีการแพร่กระจายของเชื้อ coronavirus แมว และรู้ขั้นตอนในการ ป้องกัน FIP แมว เจ้าของสามารถมีบทบาทสำคัญในการปกป้องแมวจากโรคร้ายนี้ได้

ทำไมบ้านที่มีแมวหลายตัวถึงเสี่ยงมากกว่า?

อย่างที่กล่าวไปว่า FCoV แพร่กระจายผ่านอุจจาระของแมว และแมวสามารถรับเชื้อได้จากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ซึ่งอาจกลายพันธุ์เป็น FIP

การแพร่เชื้อแบบนี้พบได้บ่อยในบ้านที่มีแมวหลายตัว ศูนย์พักพิง หรือฟาร์มแมว โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ได้แก่:

  • การใช้กระบะทรายร่วมกันที่ไม่สะอาด

  • การเลียทำความสะอาดกันเองระหว่างแมว

  • ความเครียดสูงจากการอยู่แออัดกันมากเกินไป

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผล เช่น การย้ายบ้านใหม่ ความเครียดหลังการผ่าตัด หรือการติดเชื้อแฝงที่ยังไม่แสดงอาการ

มีงานวิจัยพบว่า แมวบางสายพันธุ์ เช่น Abyssinian, Bengal, Birman, Himalayan, Ragdoll และ Devon Rex มีแนวโน้มไวต่อ coronavirus แมว มากกว่าสายพันธุ์อื่น

ถ้าคุณมีแมวสายพันธุ์เหล่านี้ในบ้าน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษตั้งแต่เนิ่น ๆ

แนวทางการแยกแมวและสุขอนามัย

เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อ FCoV ในบ้านที่มีแมวหลายตัว ควรใช้วิธีดูแลและสุขอนามัยที่เหมาะสม ดังนี้:

  • จัดหากระบะทรายให้แมวแต่ละตัว และมีสำรองเพิ่มเติมไว้เสมอ

  • ทำความสะอาดกระบะทรายวันละ 2 ครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง

  • แยกแมวที่ป่วยออกจากแมวที่แข็งแรง โดยอาจกักตัวไว้ชั่วคราว

  • จำกัดการรับแมวตัวใหม่เข้าบ้าน

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและปลอดความเครียดสำหรับแมว

การสังเกตอาการ

ในช่วงแรกของการติดเชื้อ แมวส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการอะไรเลย แต่หากคุณเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที:

  • ซึม ไม่ร่าเริง ไม่เล่นเหมือนปกติ

  • เบื่ออาหาร

  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

  • มีไข้เรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อยาหรือยาปฏิชีวนะ

  • อาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง

อาการทางคลินิกที่ควรเฝ้าระวังเพิ่มเติมได้แก่:

  • FIP แบบเปียก — ช่องท้องบวมจากของเหลว น้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่ร่างกายไม่แข็งแรง หายใจติดขัด

  • FIP แบบแห้ง — น้ำหนักลดลงชัดเจนและอวัยวะภายในบวม

  • FIP แบบที่มีผลต่อดวงตา — ตาแดงหรือสีของม่านตาเปลี่ยน

  • FIP แบบที่มีผลต่อระบบประสาท — ควบคุมร่างกายไม่ได้ เดินชนสิ่งของ หรือมีอาการชัก

ความสำคัญของการตรวจพบแต่เนิ่น ๆ

หากไม่ได้รับการรักษา FIP มักจะมีผลร้ายแรงถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม แมวส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อ FCoV จะไม่แสดงอาการ เพราะร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าของแมวควรใส่ใจสังเกตพฤติกรรมหรือสุขภาพของแมวให้ดี โดยเฉพาะในบ้านที่มีแมวหลายตัว

ถ้ามีแมวตัวใดตัวหนึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น FIP แมวตัวอื่นในบ้านอาจได้รับเชื้อ coronavirus แมว ไปแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกตัวที่จะกลายเป็น FIP

เพื่อ ป้องกัน FIP แมว ควรปฏิบัติดังนี้:

  • รออย่างน้อย 1 เดือนก่อนรับแมวตัวใหม่เข้าบ้านหลังจากแมวที่ติดเชื้อเสียชีวิต

  • หากมีแมวหลายตัว ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 3 เดือน

เมื่อแมวของคุณได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์แล้ว ติดต่อ Basmi FIP Thailand ทาง LINE ทันที เพื่อเริ่มต้นการรักษาด้วย GS-441524 ที่เหมาะกับแมวของคุณ

โภชนาการและการเสริมภูมิคุ้มกัน

แมวที่สัมผัสเชื้อ FCoV แล้วจะมีโอกาสแข็งแรงขึ้นถ้ามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ดังนั้นนอกจากเรื่องสุขอนามัยแล้ว คุณควรให้ความสำคัญกับโภชนาการและอาหารเสริมด้วย

อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แมวของคุณ อย่าลืมให้แมวกินน้ำเพียงพอ และตรวจสอบส่วนผสมในอาหารว่าส่งผลต่อการแพ้หรือไม่

ส่วนอาหารเสริม คุณสามารถเริ่มจากกลุ่มที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของอวัยวะสำคัญ เช่น LiverRX สำหรับตับ, KidneyRX สำหรับไต และ BrainRX สำหรับสมอง

บทสรุป

สรุปแล้ว หากคุณเลี้ยงแมวหลายตัวในบ้าน ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ coronavirus แมว และลดความเสี่ยงของ แมวหลายตัวติด FIP:

  • แยกแมวป่วยออกจากแมวที่แข็งแรง และทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ

  • จัดกระบะทรายให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความแออัด

  • เฝ้าระวังอาการเบื้องต้นของ FIP และตรวจสุขภาพแมวอย่างสม่ำเสมอ

  • จัดอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

  • ชะลอการรับแมวตัวใหม่จนกว่าความเสี่ยงจะลดลง

หากคุณเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แมว อย่าลืมรักษาความสะอาด ควบคุมจำนวนแมว และตรวจสุขภาพแมวอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงให้ความสำคัญกับการกักตัวแมวตัวใหม่ หลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์แมวที่อาจมีเชื้อ FCoV และร่วมมือกับสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดในการดูแลกลุ่มแมวของคุณ

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page