FIP แมว: เคล็ดลับป้องกันในบ้านที่มีหลายตัว
- BasmiFIP Thailand
- 12 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
การเลี้ยงแมวหลายตัวในบ้านสามารถเป็นประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจได้จริง ๆ การได้เห็นพวกเขาเล่นด้วยกันและนอนกอดกันเป็นภาพที่สร้างความสุข แม้บางครั้งจะมีการทะเลาะเบา ๆ ให้เห็นก็ตาม~

แต่คุณรู้ไหมว่า การที่แมวอยู่รวมกันหลายตัวก็เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายของ coronavirus แมว (FCoV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่อาจกลายพันธุ์จนกลายเป็นโรคร้ายแรงอย่าง FIP ได้ในที่สุด
แล้วเราจะ ป้องกัน FIP แมว ได้อย่างไรในบ้านที่มีแมวหลายตัว? มาดูคำแนะนำง่าย ๆ จาก Basmi FIP Thailand ที่เรารวบรวมมาเพื่อเจ้าของแมวโดยเฉพาะกันเลย!
ทำความเข้าใจการแพร่กระจายของ coronavirus แมว: คู่มือสำหรับบ้านที่มีแมวหลายตัว
อย่างที่เราทราบกันดีว่า FIP เป็นหนึ่งในโรคที่เจ้าของแมวกลัวมากที่สุด เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสม แมวอาจตกอยู่ในภาวะอันตรายถึงชีวิต
ก่อนที่แมวจะเป็น FIP ได้ ต้องได้รับเชื้อ coronavirus แมว (FCoV) มาก่อน โดยเชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายผ่านอุจจาระของแมวตัวอื่น
ในความเป็นจริง เชื้อไวรัสนี้พบได้ทั่วไปในแมวส่วนใหญ่ และถ้าระบบภูมิคุ้มกันของแมวแข็งแรง ก็สามารถกำจัดไวรัสนี้ได้โดยไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อไวรัสกลายพันธุ์และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว
ไวรัสที่กลายพันธุ์นี้จะเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำในช่องท้อง น้ำหนักลด สีตาเปลี่ยน หรือแม้แต่สูญเสียการควบคุมร่างกายของแมว
ด้วยเหตุนี้ แมวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นสูง หรือแมวที่อาศัยอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นในบ้านเดียวกัน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาเป็น แมวหลายตัวติด FIP
แต่หากเข้าใจวิธีการแพร่กระจายของเชื้อ coronavirus แมว และรู้ขั้นตอนในการ ป้องกัน FIP แมว เจ้าของสามารถมีบทบาทสำคัญในการปกป้องแมวจากโรคร้ายนี้ได้
ทำไมบ้านที่มีแมวหลายตัวถึงเสี่ยงมากกว่า?
อย่างที่กล่าวไปว่า FCoV แพร่กระจายผ่านอุจจาระของแมว และแมวสามารถรับเชื้อได้จากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ซึ่งอาจกลายพันธุ์เป็น FIP
การแพร่เชื้อแบบนี้พบได้บ่อยในบ้านที่มีแมวหลายตัว ศูนย์พักพิง หรือฟาร์มแมว โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ได้แก่:
การใช้กระบะทรายร่วมกันที่ไม่สะอาด
การเลียทำความสะอาดกันเองระหว่างแมว
ความเครียดสูงจากการอยู่แออัดกันมากเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผล เช่น การย้ายบ้านใหม่ ความเครียดหลังการผ่าตัด หรือการติดเชื้อแฝงที่ยังไม่แสดงอาการ
มีงานวิจัยพบว่า แมวบางสายพันธุ์ เช่น Abyssinian, Bengal, Birman, Himalayan, Ragdoll และ Devon Rex มีแนวโน้มไวต่อ coronavirus แมว มากกว่าสายพันธุ์อื่น
ถ้าคุณมีแมวสายพันธุ์เหล่านี้ในบ้าน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษตั้งแต่เนิ่น ๆ
แนวทางการแยกแมวและสุขอนามัย
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อ FCoV ในบ้านที่มีแมวหลายตัว ควรใช้วิธีดูแลและสุขอนามัยที่เหมาะสม ดังนี้:
จัดหากระบะทรายให้แมวแต่ละตัว และมีสำรองเพิ่มเติมไว้เสมอ
ทำความสะอาดกระบะทรายวันละ 2 ครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง
แยกแมวที่ป่วยออกจากแมวที่แข็งแรง โดยอาจกักตัวไว้ชั่วคราว
จำกัดการรับแมวตัวใหม่เข้าบ้าน
สร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและปลอดความเครียดสำหรับแมว
การสังเกตอาการ
ในช่วงแรกของการติดเชื้อ แมวส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการอะไรเลย แต่หากคุณเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที:
ซึม ไม่ร่าเริง ไม่เล่นเหมือนปกติ
เบื่ออาหาร
น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
มีไข้เรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อยาหรือยาปฏิชีวนะ
อาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง
อาการทางคลินิกที่ควรเฝ้าระวังเพิ่มเติมได้แก่:
FIP แบบเปียก — ช่องท้องบวมจากของเหลว น้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่ร่างกายไม่แข็งแรง หายใจติดขัด
FIP แบบแห้ง — น้ำหนักลดลงชัดเจนและอวัยวะภายในบวม
FIP แบบที่มีผลต่อดวงตา — ตาแดงหรือสีของม่านตาเปลี่ยน
FIP แบบที่มีผลต่อระบบประสาท — ควบคุมร่างกายไม่ได้ เดินชนสิ่งของ หรือมีอาการชัก
ความสำคัญของการตรวจพบแต่เนิ่น ๆ
หากไม่ได้รับการรักษา FIP มักจะมีผลร้ายแรงถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม แมวส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อ FCoV จะไม่แสดงอาการ เพราะร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าของแมวควรใส่ใจสังเกตพฤติกรรมหรือสุขภาพของแมวให้ดี โดยเฉพาะในบ้านที่มีแมวหลายตัว
ถ้ามีแมวตัวใดตัวหนึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น FIP แมวตัวอื่นในบ้านอาจได้รับเชื้อ coronavirus แมว ไปแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกตัวที่จะกลายเป็น FIP
เพื่อ ป้องกัน FIP แมว ควรปฏิบัติดังนี้:
รออย่างน้อย 1 เดือนก่อนรับแมวตัวใหม่เข้าบ้านหลังจากแมวที่ติดเชื้อเสียชีวิต
หากมีแมวหลายตัว ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 3 เดือน
เมื่อแมวของคุณได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์แล้ว ติดต่อ Basmi FIP Thailand ทาง LINE ทันที เพื่อเริ่มต้นการรักษาด้วย GS-441524 ที่เหมาะกับแมวของคุณ
โภชนาการและการเสริมภูมิคุ้มกัน
แมวที่สัมผัสเชื้อ FCoV แล้วจะมีโอกาสแข็งแรงขึ้นถ้ามีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ดังนั้นนอกจากเรื่องสุขอนามัยแล้ว คุณควรให้ความสำคัญกับโภชนาการและอาหารเสริมด้วย
อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แมวของคุณ อย่าลืมให้แมวกินน้ำเพียงพอ และตรวจสอบส่วนผสมในอาหารว่าส่งผลต่อการแพ้หรือไม่
ส่วนอาหารเสริม คุณสามารถเริ่มจากกลุ่มที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของอวัยวะสำคัญ เช่น LiverRX สำหรับตับ, KidneyRX สำหรับไต และ BrainRX สำหรับสมอง
บทสรุป
สรุปแล้ว หากคุณเลี้ยงแมวหลายตัวในบ้าน ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ coronavirus แมว และลดความเสี่ยงของ แมวหลายตัวติด FIP:
แยกแมวป่วยออกจากแมวที่แข็งแรง และทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ
จัดกระบะทรายให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความแออัด
เฝ้าระวังอาการเบื้องต้นของ FIP และตรวจสุขภาพแมวอย่างสม่ำเสมอ
จัดอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
ชะลอการรับแมวตัวใหม่จนกว่าความเสี่ยงจะลดลง
หากคุณเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แมว อย่าลืมรักษาความสะอาด ควบคุมจำนวนแมว และตรวจสุขภาพแมวอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงให้ความสำคัญกับการกักตัวแมวตัวใหม่ หลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์แมวที่อาจมีเชื้อ FCoV และร่วมมือกับสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดในการดูแลกลุ่มแมวของคุณ
ความคิดเห็น