FIP ในแมว: วิธีป้องกันก่อนจะสายเกินไป
- BasmiFIP Thailand
- 12 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
เมื่อแมวที่เคยร่าเริงและมีพฤติกรรมน่ารักอยู่ตลอด กลับกลายเป็นซึมเงียบเพราะป่วย แน่นอนว่าเหล่าทาสแมวต้องรู้สึกเศร้าและกังวล และความรู้สึกนั้นจะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก เมื่อแมวของคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Feline Infectious Peritonitis (FIP)

สำหรับทาสแมวที่มีแมวอยู่แล้ว คำว่า FIP คงไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะโรคนี้ได้คร่าชีวิตแมวไปแล้วนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะก่อนที่จะมีการค้นพบยา GS-441524
โดยทั่วไปแล้ว FIP เป็นโรคที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัส Feline Coronavirus (FCoV) ซึ่ง FIP เองก็สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท เช่น FIP แบบเปียก, FIP แบบแห้ง, FIP ที่ส่งผลต่อดวงตา และ FIP แบบระบบประสาท
ก่อนที่แมวของคุณจะติดเชื้อร้ายแรงชนิดนี้ คุณสามารถป้องกันไว้ล่วงหน้าได้ด้วยวิธีง่าย ๆ อยากรู้ไหมว่ามีอะไรบ้าง? มาดูรายละเอียดกันเลย!
รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
การรักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งแรกที่คุณควรทำ เพื่อป้องกันไม่ให้แมวติดเชื้อ FIP เพราะไวรัส FCoV ที่เป็นสาเหตุของโรคนี้มักจะแพร่กระจายผ่านทางอุจจาระ
ไวรัสที่อยู่ในอุจจาระสามารถมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานหลายสัปดาห์ ดังนั้น คุณควรดูแลเรื่องความสะอาดด้วยวิธีต่อไปนี้:
ทำความสะอาดกรง พื้น และพื้นที่เล่นของแมวเป็นประจำ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์แต่ยังคงประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค
ล้างชามอาหารและน้ำทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
หลีกเลี่ยงการปล่อยให้มีของเสียหมักหมม เพราะอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
สิ่งแวดล้อมที่สะอาดจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของไวรัสร้ายแรงนี้ได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แมวแข็งแรงมากขึ้น หากมีไวรัส (FCoV) อยู่รอบตัว ก็จะไม่ติดเชื้อได้ง่าย
ป้องกันการแพร่เชื้อ Feline Coronavirus (FCoV)
นอกจากจะติดต่อผ่านทางอุจจาระแล้ว แมวสามารถแพร่เชื้อ Feline Coronavirus (FCoV) ให้กันและกันได้ด้วย ไม่ว่าจะผ่านน้ำลาย เลือด หรือการกัดต่อสู้กับแมวที่ติดเชื้อ FIP มาก่อน
ดังนั้น ถ้าคุณมีแมวหลายตัวอยู่ในบ้าน แล้วพบว่าแมวตัวใดตัวหนึ่งเป็น FIP ควรดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อด้วยวิธีเหล่านี้:
กักตัวแมวที่ติดเชื้อ และห้ามปล่อยให้ปะปนกับแมวตัวอื่นจนกว่าอาการจะเริ่มดีขึ้น
จำกัดการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแมว ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด
แยกภาชนะอาหารและน้ำของแมวแต่ละตัวออกจากกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ตรวจสุขภาพแมวตัวอื่นในบ้านให้ครบ เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่มีการติดเชื้อจากแมวที่ป่วย
การจัดการกระบะทรายและจำนวนประชากรแมว
อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การแพร่เชื้อของไวรัสนี้สามารถเกิดขึ้นจากอุจจาระของแมวได้ เพราะฉะนั้น การดูแลความสะอาดของกระบะทรายจึงสำคัญมาก โดยคุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
จัดเตรียมกระบะทรายแยกไว้ให้กับแมวแต่ละตัวในบ้าน และถ้าเป็นไปได้ควรมีสำรองไว้เพิ่มเติม
ทำความสะอาดกระบะทรายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและไวรัส
วางกระบะทรายในบริเวณที่แห้ง ไม่ชื้น เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
นอกจากนี้ การควบคุมจำนวนแมวในบ้านก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอะไร?
เพราะจำนวนแมวที่มากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ และสภาพแวดล้อมที่แออัดยังสามารถทำให้แมวเกิดความเครียด ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ก็ทำให้แมวติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และอาจกลายเป็นโรค FIP ได้ในที่สุด
สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและปลอดจากความเครียด
แมวก็มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ และสามารถเกิดความเครียดได้เช่นกัน เมื่อแมวเครียด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะอ่อนแอลง และแมวก็จะติดเชื้อ FIP ได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว แมวจะเริ่มมีพฤติกรรมวิตกเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดัง หรือมีแมวหลายตัวเกินไปในพื้นที่เดียวกัน ดังนั้น แนะนำว่าไม่ควรเลี้ยงแมวจำนวนมากเกินไปในบ้านหลังเดียว เพื่อให้แมวแต่ละตัวอยู่ได้อย่างสบายและไม่เครียด
นอกจากนี้ พยายามอย่าเล่นซนกับแมวในแบบที่ทำให้มันกลัว เช่น เอาไปโยนลงน้ำ จุดประทัดใกล้แมว หรือทำสิ่งอื่น ๆ ที่อาจทำให้แมวเกิดความกลัว
เสริมภูมิคุ้มกันด้วยโภชนาการและอาหารเสริม
ระบบภูมิคุ้มกันถือเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับโรค FIP เพื่อให้แมวมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง คุณควรให้แมวได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
นอกจากนี้ คุณยังสามารถให้แมวกินอาหารเสริมได้ด้วย เลือกวิตามินที่ช่วยบำรุงอวัยวะภายใน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นความอยากอาหารให้กับแมว
ตรวจพบไวแต่เนิ่น ๆ และแยกกักตัวแมวที่ป่วย
FIP เป็นโรคที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว และไวรัสสามารถเข้าโจมตีอวัยวะภายในได้อย่างรุนแรง เพราะฉะนั้น การตรวจพบไวเป็นสิ่งที่ Pawrents ทุกคนไม่ควรละเลย
ควรเริ่มระวังเมื่อแมวมีอาการต่อไปนี้:
มีไข้ติดต่อกันหลายวันไม่หาย
ท้องบวมใหญ่ผิดปกติ (อาการของ FIP แบบเปียก)
น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
ซึม ไม่อยากอาหาร
เมื่อสังเกตพบอาการเหล่านี้ ให้รีบพาแมวไปตรวจที่คลินิกสัตวแพทย์ และทำการตรวจเลือดหรือวินิจฉัยอื่น ๆ ที่จำเป็น หลังจากนั้น ให้แยกแมวที่ป่วยออกจากตัวอื่น ๆ และเริ่มให้การรักษาด้วย GS-441524 ทันที
สรุป
การป้องกัน FIP ในแมวสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถลงมือทำได้เองตั้งแต่วันนี้ แต่หากพบว่าแมวเริ่มมีอาการที่เข้าข่าย FIP อย่ารอช้า รีบนำไปตรวจที่คลินิกสัตวแพทย์ที่เชื่อถือได้
เมื่อได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง อย่าลังเลที่จะติดต่อทีม Basmi FIP Thailand ผ่าน LINE เพื่อรับคำแนะนำ พร้อมรับยาต้านไวรัส GS-441524 ที่เหมาะสมกับอาการของแมวแต่ละตัว
ไม่ต้องกังวลนะ เพราะทีม Basmi FIP Thailand จะอยู่เคียงข้างคุณและพร้อมสู้ไปด้วยกันจนกว่าแมวของคุณจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง~ 🐾
Komentar