ปัญหาไตในแมว: คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับโรคไตในแมว อาการ และการรักษา

โรคไต (Kidney Disease) หรือที่เรียกว่า โรคไตวาย, ไตเสื่อม, ภาวะไตทำงานไม่เพียงพอ เป็นหนึ่งในโรคที่พบบ่อยและร้ายแรงในแมว โดยเฉพาะแมวสูงอายุ จากอาการเริ่มแรกอย่างการดื่มน้ำมากกว่าปกติ ไปจนถึงภาวะโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) ปัญหาเกี่ยวกับไตสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของแมวได้อย่างมาก

แต่ข่าวดีก็คือ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก มีการดูแลอย่างเหมาะสม และได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์อย่างต่อเนื่อง แมวหลายตัวก็ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างสบายได้อีกหลายเดือน หรือแม้กระทั่งหลายปีหลังจากได้รับการวินิจฉัย

ถ้าแมวของคุณดื่มน้ำมากผิดปกติ น้ำหนักลด หรือดูไม่ร่าเริงเหมือนเดิม อาจเป็นสัญญาณของปัญหาไต คู่มือนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่เจ้าของแมวควรรู้ ไม่ว่าจะเป็น อาการ การวินิจฉัย การรักษา และเคล็ดลับการดูแลแมวที่ป่วยเป็นโรคไต

โรคไตในแมวคืออะไร?

เมื่อพูดถึง "ปัญหาไตในแมว" ส่วนใหญ่เราหมายถึง โรคไตเรื้อรัง (CKD) หรือภาวะไตเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่ค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ทำให้ไตสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียและควบคุมสมดุลของเหลวกับแร่ธาตุในร่างกาย

คำอื่น ๆ ที่อาจได้ยิน เช่น

• โรคไตในแมว (Cat Renal Disease)

• ภาวะไตเสื่อม (Renal Insufficiency)

• ไตวายในแมว (Kidney Failure)

ทั้งหมดนี้หมายถึงการที่ไตทำงานแย่ลงเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการดูแล ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

อ่านเพิ่มเติม: อาการของ FIP ที่ควรระวังในแมว!

ทำไมแมวจึงเป็นโรคไต?

สาเหตุของโรคไตในแมวไม่ได้มีเพียงอย่างเดียว แต่พบปัจจัยร่วมดังนี้:

• อายุ (มักพบมากในแมวสูงอายุ)

• พันธุกรรม (บางสายพันธุ์ เช่น เปอร์เซีย หรือ อะบิสซิเนียน มีความเสี่ยงสูง)

• สารพิษ (เช่น ดอกลิลลี่, น้ำยาหม้อน้ำ, ยาบางชนิด)

• การติดเชื้อหรือโรคประจำตัว เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือความดันโลหิตสูง

หลายครั้งสาเหตุที่แท้จริงไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะเมื่อแมวเริ่มอายุมาก จึงเป็นสิ่งสำคัญ

อาการของโรคไตในแมว

แมวเป็นสัตว์ที่เก่งในการซ่อนอาการป่วย เจ้าของจึงควรสังเกตอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แก่:

• ดื่มน้ำและปัสสาวะมากผิดปกติ

• น้ำหนักลด กินอาหารน้อยลง

• อาเจียน คลื่นไส้

• มีกลิ่นปาก (บางครั้งคล้ายกลิ่นโลหะ)

• ซึม เหนื่อยง่าย

• ขาดน้ำ (เหงือกแห้ง ตาโบ๋ ผิวหนังไม่เด้งกลับเร็ว)

• ขนหยาบ ไม่เงางาม

ถ้าแมวมีอาการเหล่านี้ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

การวินิจฉัยโรคไตในแมว

สัตวแพทย์จะตรวจดังนี้:

• ตรวจเลือด (ค่าครีอะตินิน, BUN, SDMA)

• ตรวจปัสสาวะ (ความเข้มข้น, โปรตีน)

• วัดความดันโลหิต

• เอกซเรย์หรืออัลตราซาวด์ เพื่อตรวจโครงสร้างของไต

การตรวจ SDMA สามารถช่วยตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งส่งผลต่อการรักษาอย่างมาก

ระยะของโรคไตเรื้อรัง (CKD)

ตามเกณฑ์ IRIS โรค CKD แบ่งเป็น 4 ระยะ:

• ระยะที่ 1: ค่าตรวจเริ่มผิดปกติ แต่ยังไม่มีอาการชัดเจน

• ระยะที่ 2: ไตเสื่อมเล็กน้อย ดื่มน้ำมากขึ้น

• ระยะที่ 3: ไตวายปานกลาง เริ่มเห็นอาการชัดเจน

• ระยะที่ 4: ไตวายรุนแรง อาการหนักมาก

การรักษาโรคไตในแมว

โรคไตไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถ ชะลอการเสื่อมและทำให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยวิธีการดังนี้:

• อาหารสูตรโรคไต (Renal Diets)

  • ฟอสฟอรัสต่ำ

  • โปรตีนปานกลางแต่คุณภาพสูง

  • มีกรดไขมันโอเมก้า-3

• การดูแลเรื่องน้ำและของเหลว

  • ให้อาหารเปียก น้ำพุแมว

  • ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง (ในระยะปานกลางถึงรุนแรง)

• การใช้ยา

  • ยาลดความดัน (amlodipine, telmisartan)

  • ยาจับฟอสเฟต (phosphate binders)

  • ยากระตุ้นความอยากอาหาร และยาลดคลื่นไส้

  • การรักษาภาวะโลหิตจาง

• การตรวจติดตามผลต้องตรวจเลือด น้ำหนัก และความดันเป็นประจำ

การดูแลแมวโรคไตที่บ้าน

สิ่งสำคัญคือ ความสม่ำเสมอ:

• ให้อาหารสูตรไตตามที่สัตวแพทย์แนะนำ

• มีน้ำสะอาดให้ตลอดเวลา

• ชั่งน้ำหนักและจดบันทึกทุกสัปดาห์

• ลดความเครียดในบ้าน

• ให้ยาตามกำหนดอย่างเคร่งครัด

พยากรณ์โรค: แมวจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

ขึ้นอยู่กับ:

• ระยะที่ตรวจพบ

• การรักษาอย่างเคร่งครัด

• มีโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่

แมวที่ตรวจพบตั้งแต่ระยะ 2 สามารถอยู่ได้อีก 2–3 ปีหรือมากกว่า หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม

KidneyRx™: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพไตในแมว

KidneyRx™ ได้รับการออกแบบทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไตในแมว มีส่วนผสมที่ไม่เป็นพิษ ไม่เสพติด และผ่านงานวิจัยรองรับ เช่น:

• Calcium Carbonate & Chitosan → ลดการดูดซึมฟอสฟอรัส

• Omega-3 (EPA & DHA) → ลดการอักเสบ ป้องกันไตเสื่อม

• Magnesium Carbonate → รักษาสมดุลแร่ธาตุ

• L-carnitine → ช่วยชะลอการเสื่อมของไต

• Vitamin D → ควบคุมสมดุลแร่ธาตุและกระดูก

• Cranberry Extract → ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

วิธีใช้: 1 เม็ด ต่อ น้ำหนักตัว 10 กก. วันละ 1 ครั้ง (หรือปรับตามที่สัตวแพทย์แนะนำ)

📌 สนใจสั่งซื้อ KidneyRx™ ได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือสอบถามเพิ่มเติมผ่าน LINE.

สรุป

โรคไตในแมว ไม่ใช่ประโยคตัดสินชีวิต หากตรวจพบเร็ว ดูแลตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ และเสริมด้วยการรักษาที่ถูกต้อง แมวก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

อย่ารอช้า เริ่มดูแลไตของแมวตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เขาได้อยู่กับคุณไปนานที่สุด 🐾