ทันทีที่มีเจ้าของแมวพูดถึงแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน จะมีคนพูดถึง “L-lysine(แอล ไลซีน)” ในขณะที่ทุกคนคิดว่าแอล-ไลซีนสามารถช่วยเหลือแมวที่ติดเชื้อ feline herpesvirus (ไวรัสเฮอร์ปีส์ในแมว) แต่ในความเป็นจริงแล้วแอล-ไลซีนไม่ควรถูกใช้กับแมว โดยเฉพาะกับแมวที่ถูกวินิฉัยว่าเป็น FIP, แมวที่ติดโคโรนาไวรัส และแมวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค FIP
แล้วทำไมต้องเป็นแอล-ไลซีน?
แอล-ไลซีนถูกยอมรับว่าเป็นอาหารเสริมในการควบคุมไวรัสเฮอร์ปีส์ในแมว แต่ตอนนี้มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยได้เพียงเล็กน้อยหรือถึงขั้นช่วยอะไรไม่ได้เลย แนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่าแอล-ไลซีนต่อสู้กับอาร์จีนีนในโครงสร้างของโปรตีนไวรัสเฮอร์ปีส์นั้นเอง เป็นที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานานแล้วว่าแอล-ไลซีนนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาไวรัสเฮอร์ปีส์หรือไม่ เพราะว่าไลซีนจะจับอาร์จีนีนไว้ทำให้ไวรัสเฮอร์ปีส์ไม่สามารถดูดซึ่มอาร์จีนีนมาใช้สร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีงานวิจัยจากสถาบันชั้นนำหลายฉบับแสดงให้เห็นว่าแอล-ไลซีนเป็นยาหลอกที่มีคุณค่าน้อยมากๆหรือแทบจะไม่มีเลยเมื่อใช้กับแมว
ไลซีนและ FIP ในแมว สำหรับแมวที่เป็นโรค FIP, แมวที่มีเชื้อโคโรน่า(เชื้อที่จะพัฒนาเป็น FIP ในอนาคต), และแมวที่มีความเสี่ยงที่จะเป็น FIP นั้นทั้งหมดไม่ควรใช้แอล-ไลซีนในการรักษา เหตุผลง่ายๆก็คืออาร์จีนีนนั้นมีความสำคัญมากๆสำหรับภูมิคุ้มกันของแมวและจากคำอธิบายด้านบนที่ว่าแอล-ไลซีนจะจับอาร์จีนีนไว้ไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่ FIP นั้นเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน ดังนั้นแมวจึงต้องการอาร์จีนีนมาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและทำงานได้ดีนั้นเอง ซึ่งหากแมวไม่สามารถดูดซึมอาร์จีนีนได้เพราะการขัดขวางจากแอล-ไลซีนนั่นก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวนั้นเป็น FIP ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามนี่เป็นโอกาสดีในด้านธุรกิจอาหารแมว เพราะว่าอาหารแมวส่วนใหญ่นั้นมีอาร์จีนีนที่น้อย หากเพิ่มอาร์จีนีนลงในอาหารได้ก็อาจจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากเช่นเดียวกัน แต่นี้ก็เพียงการคาดการณ์และยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์รับรอง สรุปก็คือแมวที่เป็นโรค FIP, แมวที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรค FIP, และแมวที่มีเชื้อโคโรน่า ต้องการอาร์จีนีนในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันระหว่างการรักษานั้นเอง ดังนั้นแมวจึงไม่ควรได้รับอาหารเสริมที่มีแอล-ไลซีนนั้นเอง เพราะไลซีนจะไปปิดกั้นการทำหน้าที่ของอาร์จีนีนนั้นเอง สำหรับเจ้าของแมวที่กำลังทำการรักษาน้องจากโรค FIP อยู่ควรใส่ใจอาหารของน้องในช่วงระหว่างรักษาเพื่อให้การรักษาด้วย GS-441524 นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นเอง
นำเสนอโดย BASMI FIP Thailand https://www.facebook.com/basmifipthai/ แชร์ให้เพื่อนของท่านได้รับทราบข่าวสาร แมวที่เอาชนะ FIP เยื่อบุช่องท้องอักเสบ
Comments