top of page
ค้นหา

แมวที่เป็น FIP อยู่ได้นานแค่ไหน? แนวทางรักษาและโอกาสรอดในปี 2025

แมวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากไวรัส (Feline Infectious Peritonitis – FIP) สามารถมีชีวิตยืนยาวขึ้น และหายขาดได้ภายใน 84 วันหรือน้อยกว่านั้น หากได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส GS-441524 อย่างถูกต้อง


โรค FIP เกิดจากไวรัสโคโรนาแมว (Feline Coronavirus – FCoV) ที่กลายพันธุ์ และถือเป็นหนึ่งในโรคที่วินิจฉัยและรักษาได้ยากที่สุดในแมว


แม้ในอดีตเคยถูกมองว่าเป็นโรคที่รักษาไม่ได้และถึงตายเสมอ ปัจจุบันความก้าวหน้าในการรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มอย่างมาก หนึ่งในคำถามสำคัญที่เจ้าของแมวมักสงสัยคือ: แมวที่เป็น FIP จะอยู่ได้นานแค่ไหน?


คำตอบขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของ FIP, การเริ่มต้นใช้ยาต้านไวรัส GS-441524 และระยะของโรคในขณะเริ่มการรักษา


คู่มือนี้สรุปความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด เกี่ยวกับแนวโน้มของโรคในแต่ละระยะ และความสำเร็จของการรักษาด้วย GS-441524 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว



โรค FIP พบในแมวบ่อยแค่ไหน?

ไวรัสโคโรนาแมว (FCoV) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรค FIP พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะในแมวที่อยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น ในบ้านพักพิง หรือฟาร์มเพาะพันธุ์


มีรายงานว่าแมวมากถึง 90% ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวเคยสัมผัสกับ FCoV อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต แต่มีเพียง 5% ถึง 12% เท่านั้นที่ไวรัสดังกล่าวจะกลายพันธุ์เป็น FIP


แม้เปอร์เซ็นต์การกลายพันธุ์จะต่ำ แต่ FIP ก็ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของแมวที่พบได้เป็นประจำทั่วโลก

จากข้อมูลสัตวแพทย์ทั่วโลก พบว่าแมวประมาณ 0.3% ถึง 1.4% ที่มาตรวจรักษาในคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์เสียชีวิตจาก FIP


หลายกรณีได้รับการวินิจฉัยช้า หรือไม่ได้เริ่มการรักษาทันที เนื่องจากขาดความรู้หรือได้รับข้อมูลผิดเกี่ยวกับการรักษาด้วย GS-441524



แมวที่ไม่ได้รับการรักษา FIP จะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน?

หากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส อายุขัยเฉลี่ยของแมวหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น FIP คือประมาณ 9 วัน โดยมีบางกรณีอยู่ได้ตั้งแต่ 3 ถึง 200 วัน จากงานวิจัยปี 2024 โดย Dr. Nick Roman แห่ง College Station Cat Clinic


หลายปัจจัยมีผลต่อช่วงเวลานี้ เช่น ชนิดของ FIP ระบบภูมิคุ้มกันของแมว และการดูแลแบบประคับประคองที่ได้รับ

  • FIP แบบมีน้ำ (Wet form): พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยแมวส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วันถึงไม่กี่สัปดาห์

  • FIP แบบแห้ง (Dry form): แมวบางตัวอาจอยู่ได้หลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แต่ยังคงเป็นโรคร้ายแรงที่ถึงตายหากไม่ได้รับยาต้านไวรัส

  • FIP แบบระบบประสาท (Neurological form): เมื่อเริ่มมีอาการชัก ตัวสั่น หรือเสียการทรงตัว มักมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากไม่รักษา


การดูแลประคับประคอง เช่น การให้น้ำเกลือ ยากระตุ้นความอยากอาหาร และยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อแทรกซ้อน อาจช่วยให้แมวรู้สึกดีขึ้นชั่วคราว แต่ไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุได้



มียารักษาหายหรือไม่? GS-441524 และประสิทธิภาพของมัน

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส GS-441524 ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของโรค FIP อย่างชัดเจน ยานี้เป็น nucleoside analog ที่ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส FCoV ที่กลายพันธุ์โดยตรง


ปัจจุบันถือเป็นแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด


ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ GS-441524:

  • ผลการรักษา: หากให้ยาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง GS-441524 ทำให้แมวมากถึง 92% หายขาดและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้

  • ชนิดของ FIP ที่รักษาได้: ได้ผลกับทั้งแบบมีน้ำ (wet), แบบแห้ง (dry), และเมื่อเพิ่มขนาดยา ยังสามารถรักษา FIP แบบตาและระบบประสาทได้ด้วย

  • ความเร็วในการฟื้นตัว: เจ้าของแมวจำนวนมากรายงานว่าแมวเริ่มดีขึ้นภายใน 7 วันหลังเริ่มการรักษา เช่น กินอาหารมากขึ้น ไข้ลด น้ำหนักเพิ่ม และกลับมามีพลัง โดยอาการท้องบวมมักลดลงในช่วงสัปดาห์ที่สองของการรักษา

  • ความปลอดภัย: จากการศึกษายังไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายระยะยาว และไม่มีรายงานความเป็นพิษในระดับเซลล์จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ

  • ระยะเวลาการรักษา: ควรรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 84 วัน

  • รูปแบบของยา: มีทั้งแบบแคปซูลกินและแบบฉีด เพื่อให้เหมาะกับอาการและความสะดวกของเจ้าของแมวแต่ละราย


👉 BasmiFIP Thailand ให้บริการยารักษา FIP GS-441524 ทั้งชนิดกินและฉีด พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญตลอดกระบวนการรักษา



แมวจะมีชีวิตอย่างไรหลังรักษา FIP?

งานวิจัยในปี 2023 โดย Katharina Zwicklbauer และคณะ พบว่าแมวที่ได้รับการรักษาด้วย GS-441524 สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และไม่พบอาการอีกหลังจบการรักษา


สิ่งที่ข้อมูลแสดงให้เห็น:

  • การรักษาตั้งแต่ระยะต้น ก่อนที่ระบบประสาทจะได้รับผลกระทบ ทำให้ฟื้นตัวเร็วที่สุด

  • แม้ในกรณีรุนแรง เช่น FIP แบบตาและระบบประสาท หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว แมวก็สามารถตอบสนองได้ดี

  • หากทำการรักษาครบ 84 วัน โอกาสกลับมาเป็นซ้ำถือว่าน้อยมาก

  • มีบางกรณีที่อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่อง "Long FIP Syndrome" หรืออาการหลงเหลือหลังหายจาก FIP แต่พบได้น้อยมากและยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน



สิ่งที่เจ้าของแมวควรทำทันทีหลังได้รับการวินิจฉัย

การลงมือรักษาโดยเร็วส่งผลอย่างมากต่อโอกาสรอดชีวิตของแมว

  • ยืนยันการวินิจฉัย: สัตวแพทย์ควรใช้การตรวจหลากหลายรูปแบบ เช่น CBC, PCR และ/หรือ Rivalta test เพื่อยืนยันการติดเชื้อ FCoV/FIPV

  • ปรึกษาทางเลือกการรักษา: ปัจจุบันสัตวแพทย์จำนวนมากยอมรับประสิทธิภาพของ GS-441524 หากหาไม่ได้ในไทย อาจขอคำแนะนำจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น BasmiFIPThailand.com

  • เริ่มรักษาทันที: การเริ่มให้ยาก่อนที่อาการจะรุนแรงช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตเกือบ 100%

  • ปฏิบัติตามแนวทางการให้ยา: ขนาดยาและความต่อเนื่องมีความสำคัญต่อผลลัพธ์

  • ติดตามผลเป็นประจำ: ตรวจอาการ น้ำหนัก และผลเลือดตลอดระยะเวลาการรักษา



สรุป: การฟื้นตัวเป็นไปได้จริงด้วยการรักษา

FIP ไม่ใช่โรคที่ถึงตายอีกต่อไป หากไม่ได้รับการรักษา แมวมักเสียชีวิตภายในไม่กี่วันถึงไม่กี่สัปดาห์ แต่หากรักษาด้วย GS-441524 แมวสามารถหายขาดและมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ


ทางเลือกการรักษาที่ช่วยให้ฟื้นตัว:

ต้องการคำแนะนำในการเลือกแนวทางการรักษา?


ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก BasmiFIP Thailand พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพตามอาการของแมวคุณ

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page