อาการเริ่มต้นของ FIP ในแมวที่เจ้าของแมวไทยควรรู้

Feline Infectious Peritonitis (FIP) หรือ “โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากเชื้อไวรัสในแมว” เป็นหนึ่งในโรคที่มักถูกเข้าใจผิดมากที่สุด แต่ปัจจุบันสามารถรักษาได้แล้วเมื่อก่อน FIP เคยเป็นโรคที่ถูกมองว่าไม่มีทางรักษา แต่ด้วยการพัฒนาของยาแอนตี้ไวรัสรุ่นใหม่ ทำให้แมวจำนวนมากสามารถฟื้นกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

การรู้จัก อาการเริ่มต้นของ FIP มีความสำคัญมาก เพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่แมวจะหายยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแค่ไข้หรืออาการทั่วไป ทำให้เริ่มรักษาช้าเกินไป

อาการเริ่มต้นของ FIP ในแมวที่เจ้าของแมวไทยควรรู้

ที่ BasmiFIP Thailand เราได้ช่วยให้แมวมากกว่า 87,000 ตัวทั่วโลก หายจากโรค FIP ด้วยการรักษาที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง

FIP คืออะไร?

FIP (Feline Infectious Peritonitis) เกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Feline Coronavirus (FCoV) — ไม่ใช่ไวรัสโควิด-19 ที่ติดในคน

โดยทั่วไป แมวที่ติดเชื้อ FCoV จะมีเพียงอาการเล็กน้อย เช่น ท้องเสีย หรือถ่ายเหลว แต่ในบางตัว ไวรัสจะกลายพันธุ์ภายในร่างกาย ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่รุนแรงจนกลายเป็นโรค FIP

สิ่งสำคัญคือ FIP ไม่ใช่โรคติดต่อแม้ว่าไวรัสต้นแบบ (FCoV) จะติดต่อได้ระหว่างแมว แต่เมื่อกลายพันธุ์เป็น FIP แล้ว มันจะไม่สามารถติดต่อได้อีก ดังนั้นแมวที่เป็น FIP จะไม่แพร่เชื้อให้แมวตัวอื่นในบ้าน

อาการเริ่มต้นของ FIP ในแมว

แล้วเจ้าของควรสังเกตอาการอะไรบ้างว่าแมวอาจเป็น FIP?ต่อไปนี้คือ อาการเริ่มต้นของโรค FIP ที่พบบ่อย ซึ่งบางครั้งอาจดูไม่รุนแรงในระยะแรก:

อาการทั่วไป (พบได้ในทุกชนิดของ FIP)

• มีไข้สูง ที่ไม่หายแม้ใช้ยาปฏิชีวนะ

• เบื่ออาหาร หรือไม่ยอมกิน

• น้ำหนักลดลง แม้จะกินตามปกติ

• อ่อนแรง ง่วงมากกว่าปกติ

• ขนหยาบหรือไม่เงา เนื่องจากไม่เลียขน

ชนิดของ FIP

FIP แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

• FIP แบบเปียก (Wet FIP หรือ Effusive)

• FIP แบบแห้ง (Dry FIP หรือ Non-effusive)

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจลุกลามเป็น FIP ชนิดทางระบบประสาท (Neurological FIP) หรือ FIP ชนิดที่ตา (Ocular FIP) ได้

FIP แบบเปียก (Wet FIP)

FIP ชนิดนี้เกิดจากการสะสมของของเหลวภายใน ช่องท้องหรือช่องอกแมวที่เป็น FIP แบบเปียกมักจะดู ท้องโตหรือบวมผิดปกติ และบางตัวอาจมี อาการหายใจลำบาก

บางครั้งแม้จะมีของเหลวอยู่ภายใน แต่ ท้องอาจแข็งหรือแน่นเมื่อจับสัตวแพทย์สามารถนำของเหลวนี้ออกไปตรวจเพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้

อาการที่พบบ่อย:

• ท้องโตหรือพอง

• หายใจลำบาก หรือหอบ

• กินน้อยลง ไม่ร่าเริง

• มีอาการไอหรืออ่อนแรง

FIP แบบแห้ง (Dry FIP)

FIP แบบแห้งเกิดขึ้นเมื่อไวรัสไปทำลาย อวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต หรือปอด โดย ไม่เกิดการสะสมของของเหลวอวัยวะที่ถูกทำลายอาจ แข็งหรือโตขึ้นผิดปกติ ซึ่งสามารถตรวจพบได้จากการคลำ

อาการที่พบบ่อย:

• น้ำหนักลดเรื่อย ๆ แม้กินตามปกติ

• มีไข้ต่อเนื่อง และอ่อนแรง

• เหงือกซีด หรือผิวเหลือง (ดีซ่าน) เนื่องจากตับทำงานผิดปกติ

FIP แบบแห้งมักจะถูกวินิจฉัยช้ากว่า เพราะอาการเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่ชัดเจนเหมือนแบบเปียก

FIP ชนิดทางระบบประสาท (Neurological FIP)

เมื่อไวรัส FIP ลุกลามไปยัง ระบบประสาทส่วนกลาง จะเรียกว่า FIP ชนิดทางระบบประสาทอาการจะต่างกันไปในแต่ละตัว แต่โดยทั่วไปจะพบว่า:

• มีอาการชัก หรือกระตุก

• เสียการทรงตัว เดินโซเซ (ataxia)

• กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นอัมพาตบางส่วน

• พฤติกรรมเปลี่ยนไป หรือไม่ตอบสนองเหมือนเดิม

• กระโดดหรือเดินลำบาก

• ตากระตุก (Nystagmus) — อาการนี้เริ่มพบได้บ่อยขึ้นในแมวที่เป็น FIP แบบระบบประสาท

แมวที่เป็น FIP ชนิดนี้มักดูเหมือน “สับสน” หรือ “ทรงตัวไม่ได้” และอาจล้มขณะเดิน

FIP ชนิดที่ตา (Ocular FIP)

FIP ชนิดที่ตา เกิดขึ้นเมื่อไวรัสไปทำลาย เนื้อเยื่อในดวงตาอาการจะสังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงของตา เช่น:

• ตาอักเสบ (Uveitis)

• ตาขุ่นหรือสีตาเปลี่ยนไป

• การมองเห็นลดลง หรือถึงขั้นตาบอด

• เกิดต้อกระจก หรือเยื่อบุตาอักเสบ

• รูม่านตาไม่เท่ากัน (Anisocoria) — ตาข้างหนึ่งโตอีกข้างหนึ่งเล็ก

อาการทางตาอาจเกิดขึ้นพร้อมกับ FIP ประเภทอื่น หรือเกิดเดี่ยว ๆ ก็ได้แม้ว่าการรักษาประคับประคองจะช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง แต่ ต้องใช้ยาต้านไวรัสเท่านั้น จึงจะหยุดการลุกลามของโรคได้

อาการเริ่มต้นของ FIP ได้แก่ มีไข้ เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด เมื่อโรคลุกลาม อาจพบอาการท้องบวม (FIP แบบเปียก) ความผิดปกติของอวัยวะ (FIP แบบแห้ง) หรือมีอาการทางประสาทและดวงตา

อาการของ FIP ในลูกแมวกับแมวโต

ลูกแมวและแมวอายุต่ำกว่า 2 ปี มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง

ลูกแมว

• เหนื่อยง่าย ไม่ยอมเล่น

• น้ำหนักไม่ขึ้น หรือผอมลงเร็ว

• ท้องโต นิ่มเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน

• อาการทรุดเร็วมาก ภายในไม่กี่วัน

แมวโต

• อาการมักจะ พัฒนาอย่างช้า ๆ

• เล่นน้อยลง กินน้อยลง ซ่อนตัวบ่อย

• น้ำหนักลดลงทีละน้อย

ลูกแมวมักทรุดเร็วมาก หากเห็นอาการเพียงเล็กน้อย ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

เมื่อไหร่ควรพาแมวไปหาสัตวแพทย์

หากแมวของคุณมี ไข้ เบื่ออาหาร หรือพฤติกรรมแปลกไปควรพาไปพบ สัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์รักษา FIP ทันที

การตรวจที่ใช้ในการวินิจฉัย:

• ตรวจเลือด (CBC) เพื่อหาภาวะโลหิตจางหรือการอักเสบ

• ค่า A/G Ratio (Albumin/Globulin) — ถ้าต่ำอาจบ่งชี้ถึง FIP

• การทดสอบ Rivalta เพื่อตรวจของเหลวในช่องท้องหรือช่องอก

• การตรวจ PCR หรือ Immunohistochemistry เพื่อยืนยันการติดเชื้อ

แม้ไม่มีการตรวจใดที่ยืนยันได้ 100% แต่เมื่อวิเคราะห์ร่วมกับอาการและผลแล็บ มักให้ผลที่แม่นยำสูง

การตรวจพบเร็วคือกุญแจสำคัญของการรักษา

หากสงสัยว่าแมวเป็น FIP ควรทำอย่างไร

อย่าตกใจ — FIP ไม่ใช่โรคที่รักษาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

สิ่งแรกที่ควรทำคือ ติดต่อ สัตวแพทย์ที่เข้าใจการรักษา FIP แบบปัจจุบันสัตวแพทย์บางรายอาจยังเชื่อว่า FIP ไม่มีทางรักษา แต่ข้อมูลใหม่พิสูจน์แล้วว่าสามารถหายได้จริง

ที่ BasmiFIP Thailand เราใช้ ยาต้านไวรัส GS-441524 ซึ่งเป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบันทีมของเราช่วยให้แมวมากกว่า 87,000 ตัวทั่วโลก หายป่วยและกลับมามีชีวิตที่แข็งแรงอีกครั้ง

ขั้นตอนต่อไป:

1. พาแมวไปตรวจ และขอให้สัตวแพทย์ตรวจเฉพาะทางสำหรับ FIP

2. ติดต่อ BasmiFIP Thailand เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการรักษา

3. ติดตามอาการของแมวอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะการรักษา

👉 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและเรื่องราวความสำเร็จของแมวที่หายจาก FIP ได้ที่ basmifipthailand.com

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FIP

1. อาการแรกเริ่มของ FIP คืออะไร?

มักเริ่มจาก มีไข้ เบื่ออาหาร และอ่อนแรง จากนั้นอาจมี ท้องบวม น้ำหนักลด หรืออาการทางตาและระบบประสาท

2. FIP รักษาหายไหม?

หายได้ครับ ด้วยการรักษาด้วย ยา GS-441524 ซึ่งช่วยให้แมวจำนวนมากกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง

3. แมวที่เป็น FIP อยู่ได้นานแค่ไหน?

หากไม่ได้รับการรักษา มักอยู่ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ถึงไม่กี่เดือนแต่ถ้าได้รับการรักษาเร็ว โอกาสหายมากกว่า 90%

4. หากสงสัยว่าแมวเป็น FIP ควรทำอย่างไร?

รีบนำไปพบสัตวแพทย์ และ ติดต่อ BasmiFIP Thailand เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญยิ่งเริ่มรักษาเร็ว โอกาสหายยิ่งสูง

5. FIP ติดต่อแมวตัวอื่นไหม?

ไม่ครับ เชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์เป็น FIP ไม่สามารถแพร่ระหว่างแมวได้

6. FIP จะกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม?

พบได้น้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อแมวได้รับยาครบตามระยะและมีการตรวจติดตามหลังการรักษา

สรุป

FIP เคยเป็นโรคที่เจ้าของแมวกลัวที่สุด แต่วันนี้ มันสามารถรักษาและหายขาดได้จริงการรู้จัก อาการเริ่มต้นของ FIP เช่น ไข้ เบื่ออาหาร หรือท้องโต จะช่วยให้คุณพาแมวเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา

ที่ BasmiFIP Thailand เราเห็นแมวนับพันตัวฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการดูแลที่ถูกต้อง การรักษาด้วยยาแอนตี้ไวรัส และการเอาใจใส่ของเจ้าของ — FIP ไม่ใช่จุดจบอีกต่อไป

หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณอาจเป็น FIP ติดต่อ basmifipthailand.com วันนี้ — เพราะการตรวจพบเร็วคือกุญแจแห่งการรอดชีวิต