ภาวะตัวเหลืองในแมว: สาเหตุ อาการ การรักษา และการฟื้นตัว (คู่มือ BasmiFIP Thailand)
- BasmiFIP Thailand

- 4 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ภาวะตัวเหลือง — หรือการที่ผิวหนัง เหงือก ตา และใบหูของแมวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง — เป็นสัญญาณสำคัญว่ามีความผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้นภายในร่างกายของแมว โดยเฉพาะระบบตับ ถุงน้ำดี หรือเซลล์เลือดแดงเจ้าของแมวในประเทศไทยมักสังเกตเห็นภาวะนี้เมื่อแม้เริ่มดูซีดเหลือง อ่อนแรง หรือไม่ยอมกินอาหาร
ภาวะตัวเหลือง ไม่ใช่โรค แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ที่ต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ทันที
คู่มือจาก BasmiFIP Thailand นี้จะอธิบายทุกสิ่งที่ควรรู้ — ตั้งแต่อาการ สาเหตุ การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการดูแลฟื้นตัว พร้อมคำแนะนำเรื่อง LiverRx™ เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของตับ

ภาวะตัวเหลืองในแมวคืออะไร?
ภาวะนี้เกิดจากการสะสมของ บิลิรูบิน (bilirubin) ซึ่งเป็นเม็ดสีเหลืองที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสลายเซลล์เลือดแดงตามปกติ
โดยปกติแล้ว ตับจะช่วยกำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกายแต่ถ้าตับอักเสบ ะทำงานลดลง หรือท่อน้ำดีอุดตัน บิลิรูบินจะสะสมจนทำให้ร่างกายมีสีเหลือง
สาเหตุที่พบบ่อยในแมวไทย ได้แก่:
การอักเสบของตับ
ปัญหาถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี
การสลายเซลล์เลือดแดงเร็วกว่าปกติ
โรคไวรัสอย่าง FIP
เพราะสีเหลืองเห็นได้ชัด ภาวะนี้จึงมักเป็นสัญญาณแรกที่เจ้าของสังเกตเห็นเมื่อแมวเริ่มป่วย
อาการของภาวะตัวเหลืองในแมว
ควรสังเกตอาการต่อไปนี้:
เหงือก ตา ผิวหนัง หรือใบหูมีสีเหลือง
เบื่ออาหาร ไม่ยอมกิน
น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
อ่อนแรง เฉื่อย หรือซึม
อาเจียน / ท้องเสีย
ไข้
มีอาการเจ็บหรืออึดอัดท้อง
ดื่มน้ำมากขึ้น ปัสสาวะบ่อย
ซ่อนตัวหรือไม่อยากขยับ
อ่านเพิ่มเติม: อาการเริ่มต้นของ FIP ในแมวที่เจ้าของแมวไทยควรรู้
แม้เหลืองเพียงเล็กน้อย ก็ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องตรวจทันที
สาเหตุของภาวะตัวเหลืองในแมว
สัตวแพทย์แบ่งภาวะตัวเหลืองออกเป็น 3 ประเภท:
1. Pre-hepatic (ก่อนถึงตับ)
เกิดจากการสลายเซลล์เลือดแดงเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น:
โรคโลหิตจางภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
ปรสิตในเลือด
การได้รับสารพิษ (หัวหอม สังกะสี ยาบางชนิด)
2. Hepatic (ปัญหาภายในตับ)
เกิดจากการอักเสบหรือการทำงานผิดปกติของตับ เช่น:
ตับอักเสบ
ไขมันพอกตับ (fatty liver)
การอักเสบของตับจาก FIP
มะเร็งตับ
สารพิษหรือยา
3. Post-hepatic (หลังจากออกจากตับ)
เกิดจากท่อน้ำดีอุดตัน เช่น:
ถุงน้ำดีอักเสบ
นิ่วในถุงน้ำดี
เนื้องอกที่กดทับท่อน้ำดี
โรคตับอ่อนอักเสบ
การหาสาเหตุที่แท้จริงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาที่ถูกต้อง
การวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์
สัตวแพทย์มักทำการตรวจดังนี้:
✔ การตรวจร่างกาย
ดูสีเหงือก ตา ระดับการขาดน้ำ อุณหภูมิ และอาการเจ็บช่องท้อง
✔ การตรวจเลือด
เพื่อเช็ก:
ระดับบิลิรูบิน
เอนไซม์ตับ
จำนวนเม็ดเลือดแดง
ค่าอักเสบและติดเชื้อ
✔ อัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์
เพื่อตรวจดู:
ขนาดและสภาพตับ
ถุงน้ำดีและท่อน้ำดี
ตับอ่อน
✔ การตรวจเพิ่มเติม
เช่น:
ตรวจ FIP
ตรวจสารพิษ
ตรวจการแข็งตัวของเลือด
ตัดชิ้นเนื้อตับ (ในกรณีจำเป็น)
การรักษาภาวะตัวเหลืองในแมว
แผนการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลัก แต่โดยทั่วไปประกอบด้วย:
1. การให้สารน้ำ (IV fluids)
ช่วยลดภาระของตับและฟื้นฟูสมดุลในร่างกาย
2. ยารักษา
เช่น:
ยาปฏิชีวนะ
ยากดภูมิ (หากเป็น hemolysis)
ยากระตุ้นความอยากอาหาร
ยาแก้อาเจียน
สัปพอร์ตตับ เช่น LiverRx™
วิตามินบำรุงเลือด
3. การจัดการโภชนาการ
เหมาะสำหรับแมวที่ไม่ยอมกิน:
ป้อนอาหารเสริม
อาหารพลังงานสูง
ใส่สายให้อาหารในกรณีที่จำเป็น
4. การผ่าตัด
ในกรณี:
ท่อน้ำดีอุดตัน
นิ่วในถุงน้ำดี
เนื้องอก
5. หากเกิดจาก FIP
แมวต้องได้รับการรักษาด้วยยา GS-441524
การฟื้นตัวและการดูแลต่อเนื่อง
การฟื้นตัวจะดีขึ้นอย่างมากหากตรวจพบเร็วแมวอาจต้องได้รับ:
อาหารที่อ่อนต่อการย่อยและดีต่อตับ
การดูแลเรื่องน้ำและความเครียด
ตรวจเลือดซ้ำเป็นระยะ
การเสริมด้วยตัวช่วยบำรุงตับ
⭐ แนะนำ: LiverRx™ (จาก RX Sciences)
สัปพอร์ตตับที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อช่วยฟื้นฟูตับในแมวที่มีภาวะตัวเหลืองหรือปัญหาตับ
ส่วนประกอบสำคัญ
SAMe
Silybin (Milk Thistle)
วิตามิน E
วิตามิน C
ประโยชน์
ช่วยดีท็อกซ์ตับ
ลดภาวะอนุมูลอิสระ
ช่วยให้ค่าเอนไซม์ตับกลับมาปกติ
ฟื้นฟูเซลล์ตับ
เสริมภูมิคุ้มกัน
⚠️ LiverRx™ เป็นตัวช่วยเสริม ไม่ใช่ยารักษาโรค ควรใช้ควบคู่กับการรักษาของสัตวแพทย์
การป้องกันภาวะตัวเหลือง
หลีกเลี่ยงสารพิษและอาหารต้องห้าม
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดี
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ดูแลโภชนาการที่เหมาะสม
เฝ้าระวังอาการป่วยตั้งแต่ระยะแรก
FAQs
ภาวะตัวเหลืองเป็นภาวะฉุกเฉินไหม?
ใช่ ต้องพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
แมวสามารถหายได้ไหม?
สามารถหายได้ หากรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และมีการดูแลตับที่เหมาะสม
เกี่ยวข้องกับ FIP ไหม?
ใช่ FIP มักทำให้ตับอักเสบจนเกิดภาวะตัวเหลือง
LiverRx™ ปลอดภัยไหม?
ปลอดภัย แต่ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้
ตรวจภาวะตัวเหลืองที่บ้านได้อย่างไร?
ดูสีเหงือก ดวงตา และผิวภายในใบหู หากมีสีเหลืองให้รีบพบสัตวแพทย์ทันที
เยี่ยมชม: basmifipthailand.com
Instagram: @basmifipthailand
Line / WhatsApp (Thailand): @636dwlyj



ความคิดเห็น