top of page
ค้นหา

ภาวะตัวเหลืองในแมว: สาเหตุ อาการ การรักษา และการฟื้นตัว (คู่มือ BasmiFIP Thailand)

ภาวะตัวเหลือง — หรือการที่ผิวหนัง เหงือก ตา และใบหูของแมวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง — เป็นสัญญาณสำคัญว่ามีความผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้นภายในร่างกายของแมว โดยเฉพาะระบบตับ ถุงน้ำดี หรือเซลล์เลือดแดงเจ้าของแมวในประเทศไทยมักสังเกตเห็นภาวะนี้เมื่อแม้เริ่มดูซีดเหลือง อ่อนแรง หรือไม่ยอมกินอาหาร

ภาวะตัวเหลือง ไม่ใช่โรค แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ที่ต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ทันที

คู่มือจาก BasmiFIP Thailand นี้จะอธิบายทุกสิ่งที่ควรรู้ — ตั้งแต่อาการ สาเหตุ การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการดูแลฟื้นตัว พร้อมคำแนะนำเรื่อง LiverRx™ เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของตับ

ภาวะตัวเหลืองในแมว
ภาวะตัวเหลืองในแมว

ภาวะตัวเหลืองในแมวคืออะไร?

ภาวะนี้เกิดจากการสะสมของ บิลิรูบิน (bilirubin) ซึ่งเป็นเม็ดสีเหลืองที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสลายเซลล์เลือดแดงตามปกติ

โดยปกติแล้ว ตับจะช่วยกำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกายแต่ถ้าตับอักเสบ ะทำงานลดลง หรือท่อน้ำดีอุดตัน บิลิรูบินจะสะสมจนทำให้ร่างกายมีสีเหลือง

สาเหตุที่พบบ่อยในแมวไทย ได้แก่:

  • การอักเสบของตับ

  • ปัญหาถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี

  • การสลายเซลล์เลือดแดงเร็วกว่าปกติ

  • โรคไวรัสอย่าง FIP



เพราะสีเหลืองเห็นได้ชัด ภาวะนี้จึงมักเป็นสัญญาณแรกที่เจ้าของสังเกตเห็นเมื่อแมวเริ่มป่วย


อาการของภาวะตัวเหลืองในแมว

ควรสังเกตอาการต่อไปนี้:

  • เหงือก ตา ผิวหนัง หรือใบหูมีสีเหลือง

  • เบื่ออาหาร ไม่ยอมกิน

  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

  • อ่อนแรง เฉื่อย หรือซึม

  • อาเจียน / ท้องเสีย

  • ไข้

  • มีอาการเจ็บหรืออึดอัดท้อง

  • ดื่มน้ำมากขึ้น ปัสสาวะบ่อย

  • ซ่อนตัวหรือไม่อยากขยับ



แม้เหลืองเพียงเล็กน้อย ก็ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องตรวจทันที


สาเหตุของภาวะตัวเหลืองในแมว

สัตวแพทย์แบ่งภาวะตัวเหลืองออกเป็น 3 ประเภท:

1. Pre-hepatic (ก่อนถึงตับ)

เกิดจากการสลายเซลล์เลือดแดงเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น:

  • โรคโลหิตจางภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง

  • ปรสิตในเลือด

  • การได้รับสารพิษ (หัวหอม สังกะสี ยาบางชนิด)

2. Hepatic (ปัญหาภายในตับ)

เกิดจากการอักเสบหรือการทำงานผิดปกติของตับ เช่น:

  • ตับอักเสบ

  • ไขมันพอกตับ (fatty liver)

  • การอักเสบของตับจาก FIP

  • มะเร็งตับ

  • สารพิษหรือยา

3. Post-hepatic (หลังจากออกจากตับ)

เกิดจากท่อน้ำดีอุดตัน เช่น:

  • ถุงน้ำดีอักเสบ

  • นิ่วในถุงน้ำดี

  • เนื้องอกที่กดทับท่อน้ำดี

  • โรคตับอ่อนอักเสบ

การหาสาเหตุที่แท้จริงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาที่ถูกต้อง


การวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์

สัตวแพทย์มักทำการตรวจดังนี้:

✔ การตรวจร่างกาย

ดูสีเหงือก ตา ระดับการขาดน้ำ อุณหภูมิ และอาการเจ็บช่องท้อง

✔ การตรวจเลือด

เพื่อเช็ก:

  • ระดับบิลิรูบิน

  • เอนไซม์ตับ

  • จำนวนเม็ดเลือดแดง

  • ค่าอักเสบและติดเชื้อ

✔ อัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์

เพื่อตรวจดู:

  • ขนาดและสภาพตับ

  • ถุงน้ำดีและท่อน้ำดี

  • ตับอ่อน

✔ การตรวจเพิ่มเติม

เช่น:

  • ตรวจ FIP

  • ตรวจสารพิษ

  • ตรวจการแข็งตัวของเลือด

  • ตัดชิ้นเนื้อตับ (ในกรณีจำเป็น)


การรักษาภาวะตัวเหลืองในแมว

แผนการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลัก แต่โดยทั่วไปประกอบด้วย:

1. การให้สารน้ำ (IV fluids)

ช่วยลดภาระของตับและฟื้นฟูสมดุลในร่างกาย

2. ยารักษา

เช่น:

  • ยาปฏิชีวนะ

  • ยากดภูมิ (หากเป็น hemolysis)

  • ยากระตุ้นความอยากอาหาร

  • ยาแก้อาเจียน

  • สัปพอร์ตตับ เช่น LiverRx™

  • วิตามินบำรุงเลือด

3. การจัดการโภชนาการ

เหมาะสำหรับแมวที่ไม่ยอมกิน:

  • ป้อนอาหารเสริม

  • อาหารพลังงานสูง

  • ใส่สายให้อาหารในกรณีที่จำเป็น

4. การผ่าตัด

ในกรณี:

  • ท่อน้ำดีอุดตัน

  • นิ่วในถุงน้ำดี

  • เนื้องอก

5. หากเกิดจาก FIP

แมวต้องได้รับการรักษาด้วยยา GS-441524


การฟื้นตัวและการดูแลต่อเนื่อง

การฟื้นตัวจะดีขึ้นอย่างมากหากตรวจพบเร็วแมวอาจต้องได้รับ:

  • อาหารที่อ่อนต่อการย่อยและดีต่อตับ

  • การดูแลเรื่องน้ำและความเครียด

  • ตรวจเลือดซ้ำเป็นระยะ

  • การเสริมด้วยตัวช่วยบำรุงตับ


⭐ แนะนำ: LiverRx™ (จาก RX Sciences)

สัปพอร์ตตับที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อช่วยฟื้นฟูตับในแมวที่มีภาวะตัวเหลืองหรือปัญหาตับ

ส่วนประกอบสำคัญ

  • SAMe

  • Silybin (Milk Thistle)

  • วิตามิน E

  • วิตามิน C

ประโยชน์

  • ช่วยดีท็อกซ์ตับ

  • ลดภาวะอนุมูลอิสระ

  • ช่วยให้ค่าเอนไซม์ตับกลับมาปกติ

  • ฟื้นฟูเซลล์ตับ

  • เสริมภูมิคุ้มกัน

⚠️ LiverRx™ เป็นตัวช่วยเสริม ไม่ใช่ยารักษาโรค ควรใช้ควบคู่กับการรักษาของสัตวแพทย์


การป้องกันภาวะตัวเหลือง

  • หลีกเลี่ยงสารพิษและอาหารต้องห้าม

  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดี

  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

  • ดูแลโภชนาการที่เหมาะสม

  • เฝ้าระวังอาการป่วยตั้งแต่ระยะแรก


FAQs

ภาวะตัวเหลืองเป็นภาวะฉุกเฉินไหม?

ใช่ ต้องพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

แมวสามารถหายได้ไหม?

สามารถหายได้ หากรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และมีการดูแลตับที่เหมาะสม

เกี่ยวข้องกับ FIP ไหม?

ใช่ FIP มักทำให้ตับอักเสบจนเกิดภาวะตัวเหลือง

LiverRx™ ปลอดภัยไหม?

ปลอดภัย แต่ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้

ตรวจภาวะตัวเหลืองที่บ้านได้อย่างไร?

ดูสีเหงือก ดวงตา และผิวภายในใบหู หากมีสีเหลืองให้รีบพบสัตวแพทย์ทันที


เยี่ยมชม: basmifipthailand.com 

Line / WhatsApp (Thailand): @636dwlyj

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page