ในบทความที่แล้วเราได้กล่าวถึงความสำคัญในการดูแลตับและไตระหว่างรับการรักษา FIP ไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิตามินและอาหารเสริมเพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานที่แข็งแรงให้ตับและไตของน้องแมวทั้งหลายระหว่างรับการรักษา FIP การทำงานที่แข็งแรงของอวัยวะภายในร่างกายช่วยเสริมร้างให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น การให้วิตามินและอาหารเสริมระหว่างการรักษา FIP ไม่ส่งผลเสียใดๆต่อการทำงานของ GS-441524 ปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของวิตามิน และปริมาณความต้องการของวิตามินนั้นๆ
วิตามิน
วิตามินบี 12 ได้รับมาจากอาหารจำพวก เนื้อสัตว์, ตับ, ปลา หรือไข่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในอาหารแมวโดยทั่วไปอยู่แล้ว อาหารแมวที่วางขายโดยทั่วไปส่วนใหญ่มีวิตามินบี 12 ในปริมาณที่น้องแมวควรได้รับต่อวันอยู่แล้ว (สำหรับแมวที่ไม่มีอาการป่วย) แมวที่ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินบี 12 เพิ่มขึ้นเนื่องจากวิตามินบี 12 จะลดลงอย่างรวดเร็วในแมวที่ป่วย
วิตามินบี 12 ช่วยส่งเสริมการพัฒนาและบำรุงรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดง
วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท (เซลล์ประสาทและไมอีลิเนชันปกติ – เปลือกไขมันที่ปกคลุมและปกป้องปลายประสาท) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท และการตอบสนองความรับรู้ความเข้าใจ
วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบลำไส้ และระบบย่อยอาหารเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดี และยังมีส่วนช่วยระบบเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันอีกด้วย
วิตามินบี 12 สามารถให้เป็นวิตามินเสริมกับแมวได้ และปล่อดภัย การให้วิตามินบี 12 สามารถให้ได้ด้วยการฉีดใต้ผิวหนังสัปดาห์ละครั้งเพื่อช่วยให้ภาวะโลหิตจางดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้การให้วิตามินบี 12 ก็สามารถให้ได้ผ่าน ยาน้ำแบบหยอด วันละ 1 ครั้ง เช่น Pet Tinic หรืออื่นๆที่มี
วิตามินบี 12 ใกล้เคียงกัน
อาหารเสริม
กาบาเพนติน (Gabapenthin): ยาแก้ปวดอ่อนๆสามารถให้ได้ก่อนการฉีดยาประมาณ 60-90 นาที กาบาเพนตินจะช่วยลดความเจ็บปวดจากการฉีดยาได้ โดยที่แมวไม่ได้มีอาการมึนงงหรือง่วงซึมมากเกินไป
น้ำมัน CBD: เจ้าของแมวบางรายพบว่าการใช้น้ำมัน CBD ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดตึง, ความวิตกกังวลของแมวก่อนการฉีดยา, หรือแม้กระทั่งช่วยบรรเทาอาการชักเกร็งของแมวได้ นอกจากนี้น้ำมัน CBD ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของลูกแมวที่มีปัญหาในการทานอาหารอีกด้วย การใช้น้ำมัน CBD เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้ควบคู่การรักษาเพื่อบรรเทาอาการที่กล่าวมาข้างต้น และยังมีฤทธิ์กล่อมประสาทอ่อนๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับการรักษาด้วยการฉีดยา GS-441524 ได้ ถ้าต้องการใช้ น้ำมัน CBD ประกอบการรักษาต้องใช้น้ำมัน CBD ที่สัตวแพทย์รับรองเท่านั้น และควรให้สัตวแพทย์แนะนำปริมาณที่ควรใช้ต่อครั้งโดยละเอียด การใช้น้ำมัน CBD ที่ไม่ได้คุณภาพหรือผิดปริมาณต่อครั้งอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี!
น้ำมันกัญชาอาจใช้แทนน้ำมัน CBD ได้
ครีม Lidocain: สามารถใช้ทาบนผิวแมวได้ก่อน 30 นาที ที่จะฉีด GS-441524 ครีมจะช่วยลดความรู้สึกแสบตึงของผิวแมวได้ ห้ามใช้ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เด็ดขาด เพราะเป็นพิษร้ายแรงต่อแมว
Slippery Elm Bark: น้ำเชื่อมสลิปเปอรี่ เอล์ม เป็นสารสกัดธรรมชาติเหมาะสำหรับรักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาการเจ็บป่วยอื่นๆ
Denamarin: Denamarin แบบเม็ด เป็นอาหารเสริมตับสำหรับแมว ช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ
Silymarin (Milk Thistle): ช่วยกระตุ้นการทำงานให้ตับของน้องแมว เป็นสารสกัดธรรมชาติ และเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยปกป้องการทำงานของตับ
เราแนะนำให้คุณให้ Denamarin แบบเม็ด หรือ Silymarin (Milk Thistle) เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
บทความดังกล่าวข้างต้นจัดทำเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้นไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ สำหรับข้อสงสัยอื่นๆเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ www.basmifipthailand.com
เผยแพร่โดย: basmifipthailand.com
เข้าไปดู Facebook ของเราได้ที่: facebook.com/basmifipthai